ThaoKea
เถ้าแก่.คอม
ให้บริการ ด้านการจัดตั้งธุรกิจ รับจดทะเบียนบริษัท ทุกประเภท ทั่วไทย รับเป็นที่ปรึกษาด้านบัญชี ภาษี ตรวจสอบภายใน เขียนแผนธุรกิจ การตลาด สื่อโฆษณา การเงิน แรงงาน กฎหมาย ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์พร้อมด้วยบริการอย่างมีประสิทธิภาพ ราคาเป็นธรรมและซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา
ความหมายของมูลนิธิ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 110 ได้บัญญัติความหมายของมูลนิธิไว้ว่า มูลนิธิได้แก่ ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณะประโยชน์อย่างอื่นโดยมิได้มุ่งหาประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้
การจัดการทรัพย์สินของมูลนิธิ ต้องมิใช่เป็นการหาผลประโยชน์เพื่อบุคคลใด นอกจากเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธินั้นเองกล่าวโดยสรุป ความหมายของมูลนิธิตามข้อกฎหมายข้างต้นนี้ให้ความสำคัญอยู่ที่ทรัพย์สินคือ เป็นการนำเอาเงินสด และอสังหาริมทรัพย์มารวมกันเข้าเป็นกองทุน เพื่อทำกิจกรรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ดังจะเห็นได้จากหลักเกณฑ์ของการจัดตั้งมูลนิธิ ซึ่งทาวงราชการได้กำหนดหลักการและจำนวนเงินทุน “ทุนทรัพย์เริ่มแรก” ที่นำมาจดทะเบียนไว้ดังนี้
- ใน การจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิต้องมีกองทุนเป็นเงินสดไม่น้อยกว่า 500,000 บาท ถ้าเป็นทรัพย์สินอย่างอื่นต้องมีเงินสดไม่น้อยกว่า 250,000 บาท และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอื่นแล้วต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 500,000บาท
- แต่ ถ้ามูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสังคมสงเคราะห์ ส่งเสริมการศึกษา การกีฬา ศาสนา สาธารณภัย และเพื่อการบำบัดรักษา ค้นคว้า ป้องกันผู้ป่วยจากยาเสพติด เอดส์ หรือมูลนิธิที่ก่อตั้งโดยหน่วยงานของรัฐได้รับการผ่อนผันให้มีทรัพย์สินเป็น กองทุนไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท ถ้าเป็นทรัพย์สินอย่างอื่นจะต้องมีเงินสดไม่น้อยกว่า 100,000 บาท และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอื่นแล้วต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 200,000 บาท
การเตรียมการจัดตั้งมูลนิธิ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 111 ได้กำหนดให้มูลนิธิ ต้องมีข้อบังคับและต้องมีคณะกรรมการของมูลนิธิ ประกอบด้วยบุคคลอย่างน้อย 3 คน เป็นผู้ดำเนินกิจการของมูลนิธิตามกฎหมายและข้อบังคับของมูลนิธิ การก่อตั้งมูลนิธิ ต้องมีบุคคลหรือคณะบุคคลมารวมกันปรึกษาหารือ เพื่อดำเนินการในเรื่องดังต่อไปนี้
- ทรัพย์สินที่จะจัดตั้งมูลนิธิ
- จัดทำข้อบังคับของมูลนิธิ
- กำหนดที่ตั้งของสำนักงานมูลนิธิ
- แต่งตั้งและกำหนดตำแหน่งกรรมการมูลนิธิ เช่น ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ เหรัญญิก เลขานุการ เป็นต้น
- แต่ง ตั้งบุคคล เพื่อมอบหมายให้ดำเนินการในเรื่องการยื่นเรื่องราวของมูลนิธิ เมื่อได้ประชุมกันกระทำตาม ข้อ 1-5 แล้วให้ผู้ได้รับมอบหมายจัดทำเอกสารเพื่อยื่นเรื่องขอจัดตั้งมูลนิธิจำนวน 4 ชุดดังนี้
- รายชื่อเจ้าของทรัพย์สินและรายการทรัพย์สินที่จะจัดสรรสำหรับมูลนิธิ
- รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะมาเป็นกรรมการของมูลนิธิทุกคน
- ข้อบังคับของมูลนิธิ
- หนังสือคำมั่นสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินแก่มูลนิธิของเจ้าของทรัพย์สินตาม (1) ที่มีผลตามกฎหมาย
- สำเนาพินัยกรรม ในกรณีที่การขอจดทะเบียนมูลนิธิหรือจัดสรรทรัพย์สินสำหรับมูลนิธิตาม (1) เกิดขึ้นโดยผลของพินัยกรรม
- สำเนา ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นที่ส่วนราชการหน่วยงานของ รัฐ หรือรัฐวิสาหกิจออกให้ และสำเนาภาพถ่ายทะเบียนบ้านของบุคคลตาม (1) และ (2) หรือหลักฐานอื่นที่สามารถแสดงสถานภาพของบุคคลและถิ่นที่อยู่ในทำนองเดียวกัน ในกรณีที่บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ไม่มีหลักฐานตามที่กำหนด เช่น คนต่างด้าวหรือพระภิกษุ
- แผนผังโยสังเขปแสดงที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และที่ตั้งสำนักงานสาขาทั้งปวง (ถ้ามี) ***
- หนังสืออนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองให้ใช้สถานที่ตามข้อ ***
- สำเนารายงานการประชุมจัดตั้งมูลนิธิ
- หนังสือรับรองราคาประเมินที่ดินของเจ้าหน้าที่ดินและสำเนาโฉนดที่ดิน (กรณีมีที่ดินอยู่ในกองทุนที่จะจัดตั้งมูลนิธิ)
- อื่นๆ (ถ้ามี)
การจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
การจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
- ในเขตกรุงเทพมหานคร ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นนายทะเบียนมูลนิธิ
- ในเขตจังหวัดอื่น ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นนายทะเบียนมูลนิธิ
การยื่นเรื่องขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ มีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้
ในเขตกรุงเทพมหานคร
- ผู้ขอตั้งมูลนิธิ จะต้องจัดทำเอกสารหลักฐาน (จำนวน 4 ชุด) เพื่อยื่นร้องขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิตามแบบ (ม.น.1) ต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่สำนักงานมูลนิธิจะจัดตั้งขึ้น ในเขตกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ สำนักงานเขต
- เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตรับคำร้องแล้วจะตรวจสอบคำขอและหลักฐาน ต่างๆ ตรวจสอบชื่อของมูลนิธิว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือซ้ำกับชื่อของมูลนิธิที่จด ทะเบียนไว้หรือไม่ การตรวจสอบ / สอบสวนผู้ที่จะเป็นกรรมการทุกคนว่ามีฐานะและความประพฤติเหมาะสมที่จะดำเนิน การตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิหรือไม่
- พนักงาน เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตเสนอความเห็นต่อนายทะเบียนโดยส่งเรื่องไป กองปกครองและทะเบียน สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง ก่อนส่งให้นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร (ปลัดกระทรวงมหาดไทย)พิจารณาอนุญาต ซึ่งหากเห็นว่าถูกต้องจะส่งไปยังกระทรวงมหาดไทย
- เมื่อนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานครได้รับเรื่องแล้วหากพิจารณาเห็นว่าวัตถุ ประสงค์ของมูลนิธิเกี่ยวกับงานของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ นายทะเบียนจะส่งคำขอจดทะเบียนดังกล่าวไปยังสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) พิจารณาอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยวัฒนธรรมแห่งชาติก่อน
- เมื่อ ผ่านกระบวนการของ สวช. แล้ว นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานครพิจารณาอนุญาตก็จะออกใบสำคัญแสดงการจด ทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ (ม.น.3)และส่งประกาศอนุญาตให้ตั้งเป็นมูลนิธิไปยังสำนักเลขาธิการคณะ รัฐมนตรีเพื่อลงในราชกิจจานุเบกษา แล้วส่งเรื่องคืนไปยังสำนักงานเขตเพื่อแจ้งให้ผู้ขอรับใบสำคัญฯและชำระค่า ธรรมเนียมตามกฎกระทรวง
ในเขตจังหวัดอื่น
- ผู้ขอตั้งมูลนิธิ ต้องจัดทำเอกสารหลักฐาน (จำนวน 4 ชุด) เพื่อยื่นเรื่องคำร้องขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิต่อนายทะเบียนมูลนิธิ จังหวัด ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ ที่สำนักงานใหญ่มูลนิธิตั้งขึ้น
- เมื่อ นายอำเภอท้องที่ได้รับเรื่องขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิจากผู้ขอแล้ว จะทำการตรวจสอบ/สอบสวนผู้ที่จะเป็นกรรมการทุกคนว่ามีฐานะและความประพฤติ เหมาะสมในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิหรือไม่เมื่อทำการตรวจ สอบ/สอบสวนเสร็จแล้วรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปยังจังหวัด
- เมื่อ จังหวัดได้รับเรื่องแล้วหากพิจารณาเห็นว่าวัตถุประสงค์ของมูลนิธิเกี่ยวกับ งานของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ จังหวัดจะส่งคำขอจดทะเบียนดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) พิจารณาอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยวัฒนธรรมแห่งชาติก่อน
- เมื่อ สวช. ได้ตอบอนุญาตให้จัดตั้งเป็นองค์การแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดพิจารณาอนุญาตก็จะออกใบ สำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิ (ม.น.3) และส่งประกาศการอนุญาตให้ตั้งมูลนิธิไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อลง ในราชกิจจานุเบกษาแล้วส่งเรื่องคืนไปยังอำเภอเพื่อแจ้งให้ผู้ขอมารับใบ สำคัญฯและชำระค่าธรรมเนียมตามกฎกระทรวง
ประมูลงาน ยื่นซองเสนอราคา เสนองานบริษัท...ต้องรีบจดทะเบียนนิติบุคคล
คำถามแบบนี้..............จะถูกอธิบายอย่างละเอียดและถูกต้อง
ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด ร้านค้า ต่างกันอย่างไร ? จดทะเบียนบริษัทที่ไหน ? จดบริษัทจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ? จดบริษัทต้องใช้ผู้ก่อตั้งกี่คน ? จดบริษัทต้องมีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ ? ถ้าไม่มีเงินทุนจดทะเบียนจริง จะทำได้หรือไม่? จดบริษัทสถานที่เช่า จะใช้ได้หรือไม่ ? ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการจดบริษัท ?บริษัทกับหจก.อย่างไหนดีกว่า ? บริษัทกับห้างหุ้นส่วนต่างกันอย่างไร ? บริษัทจะต้องทำบัญชีหรือไม่ ? บริษัทจะเสียภาษีอย่างไร ? ค่าใช้จ่ายในการปิดงบการเงินเท่าไหร่ ? ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร ? บริษัทต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ? บริษัทจดคนเดียวได้ไหม ? บริษัทสามารถใส่วัตถุประสงค์ได้กี่ข้อ? จะรับงานราชการต้องจดทะเบียนแบบไหน ? บริษัทจะต้องขึ้นประกันสังคมหรือไม่ ?ต้องมีลูกจ้างกี่คนถึงจะขึ้นประกันสังคม ? จะเริ่มทำบัญชียังไง? ลูกค้าให้จดเป็นนิติบุคคล จะจดแบบไหนดี? มีชาวต่างชาติถือหุ้นด้วยจะจดบริษัทได้ไหม? การตั้งชื่อบริษัทควรจะตั้งอย่างไร? ถ้าเปิดบริษัทแต่ยังไม่มีรายได้ต้องเสียค่าทำบัญชีไหม ต้องปิดงบการเงินหรือไม่ ? ถ้ามีชื่อในบริษัทอื่นแล้ว จะตั้งบริษัทใหม่ได้ไหม ? ทำบิล ทำใบกำกับภาษี ไม่เป็น จะทำยังไง? กรรมการบริษัท คืออะไร มีหน้าที่อย่างไร? ผู้ถือหุ้น คืออะไร มีหน้าที่อย่างไร ? จะเปิดบัญชีกับธนาคาร ในนามบริษัทต้องทำอย่างไร ? ที่ตั้งบริษัท ใช้บ้านที่ต่างจังหวัดได้หรือไม่ ?
จดทะเบียนบริษัทภาคกลาง
จดทะเบียนบริษัทนครสวรรค์
จดทะเบียนบริษัทอุทัยธานี
จดทะเบียนบริษัทอ่างทอง
จดทะเบียนบริษัทสระบุรี
จดทะเบียนบริษัทสุพรรณบุรี
จดทะเบียนบริษัทสุโขทัย
จดทะเบียนบริษัทสิงห์บุรี
จดทะเบียนบริษัทสมุทรสาคร
จดทะเบียนบริษัทสมุทรสงคราม
จดทะเบียนบริษัทสมุทรปราการ
จดทะเบียนบริษัทลพบุรี
จดทะเบียนบริษัทเพชรบูรณ์
จดทะเบียนบริษัทพิษณุโลก
จดทะเบียนบริษัทพิจิตร
จดทะเบียนบริษัทพระนครศรีอยุธยา
จดทะเบียนบริษัทปทุมธานี
จดทะเบียนบริษัทนนทบุรี
จดทะเบียนบริษัทนครปฐม
จดทะเบียนบริษัทนครนายก
จดทะเบียนบริษัทชัยนาท
จดทะเบียนบริษัทกำแพงเพชร
จดทะเบียนบริษัทภาคใต้
จดทะเบียนบริษัทยะลา
จดทะเบียนบริษัทสุราษฎร์ธานี
จดทะเบียนบริษัทสงขลา
จดทะเบียนบริษัทสตูล
จดทะเบียนบริษัทระนอง
จดทะเบียนบริษัทภูเก็ต
จดทะเบียนบริษัทพัทลุง
จดทะเบียนบริษัทพังงา
จดทะเบียนบริษัทปัตตานี
จดทะเบียนบริษัทนราธิวาส
จดทะเบียนบริษัทนครศรีธรรมราช
จดทะเบียนบริษัทตรัง
จดทะเบียนบริษัทชุมพร
จดทะเบียนบริษัทกระบี่
จดทะเบียนบริษัทภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จดทะเบียนบริษัทอำนาจเจริญ
จดทะเบียนบริษัทอุบลราชธานี
จดทะเบียนบริษัทหนองบัวลำภู
จดทะเบียนบริษัทหนองคาย
จดทะเบียนบริษัทศรีสะเกษ
จดทะเบียนบริษัทสุรินทร์
จดทะเบียนบริษัทสกลนคร
จดทะเบียนบริษัทเลย
จดทะเบียนบริษัทร้อยเอ็ด
จดทะเบียนบริษัทยโสธร
จดทะเบียนบริษัทมุกดาหาร
จดทะเบียนบริษัทมหาสารคาม
จดทะเบียนบริษัทบุรีรัมย์
จดทะเบียนบริษัทบึงกาฬ
จดทะเบียนบริษัทนครราชสีมา-จดทะเบียนบริษัทโคราช
จดทะเบียนบริษัทนครพนม
จดทะเบียนบริษัทชัยภูมิ
จดทะเบียนบริษัทขอนแก่น
จดทะเบียนบริษัทกาฬสินธุ์
จดทะเบียนบริษัทอุดรธานี